วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โตนกลอย ทริปความทรงจำ


โตนกลอย น้ำตกในความฝัน

น้ำตกโตนกลอยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของตำบลกำพวน จังหวัดระนอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่หลายๆคนหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนบ้าง มาเที่ยวบ้าง สังสรรค์กันในหมู่เพื่อน ครอบครัว ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ที่จะมาเที่ยวกันในสถานที่นี้รวมถึงวัยรุ่นทั้งในและนอกชุมชน

เราก็ขอบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติของโตนกลอยก่อนเลย
เรื่องมีอยู่ว่าบ้านโตนกลอย หมู่ที่ 6 ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาที่สลับซับซ้อนกั้นระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นและสวยงาม เป็นที่ตั้งของน้ำตกโตนกลอย ที่ได้ชื่อตามพืชชนิดหนึ่งที่ใช้หัวมาแปรรูปเป็นอาหารเรียกกันว่า กลอยหรือ หัวกลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ชาวบ้านจะเรียกน้ำตกว่าโตนและได้นำจุดเด่นนี้มาเป็นชื่อหมู่บ้าน 
***ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ ที่น้ำดกโตนกลอยแห่งนี้จึงเป็นสถานที่พักผ่อนของผู้คนในบริเวณนี้และบริเวณใกล้เคียง***

เรื่องราวของโตนกลอย
บ้านโตนกลอย เดิมชื่อว่า บ้านพรุกวมยังไม่มีคนเข้าไปอยู่อาศัย และมีสภาพเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่ามากมายโดยเฉพาะช้างป่าและเสือ ชาวบ้านกำพวนในสมัยนั้น (หมู่ที่ 3 บ้านกำพวนปัจจุบัน) ได้เข้าไปทำคอกช้างเพื่อจับช้างป่ามาใช้งาน เช่น การลากซุงเพื่อก่อสร้างบ้านเรือน และได้มีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนว่า มีช้างพลายตัวหนึ่งซึ่งไม่มีงา (ช้างตัวผู้ที่ไม่มีงา ชาวบ้านเรียกกันว่า กวม”) ได้ข้ามป่าพรุ และช้างกวมนั้นได้ตกลงไปในพรุ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ยิ่งดิ้นยิ่งจม จนในที่สุดช้างก็ได้ตาย ชาวบ้านกำพวนจึงเรียกที่บริเวณนั้นว่า พรุกวมจากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 ได้มีการตัดถนนเพื่อขึ้นไปทำเหมืองแร่ ชาวบ้านกำพวนบางส่วนจึงเรียกบริเวณนี้ว่า หมู่บ้านทางเหมืองโชน
ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2544 กิ่งอำเภอสุขสำราญและกรมการปกครองได้อนุมัติให้แยกหมู่บ้านพรุกวมออกจากหมู่ที่ 3 และเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านใหม่เป็น บ้านโตนกลอยหมู่ที่ 6 ตำบลกำพวน กิ่งอำเภอสุขสำราญ ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอสุขสำราญ
ปัจจุบัน บ้านโตนกลอยมีประชากรจำนวน 278 คน 56 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และประกอบอาชีพด้านการเกษตรกรรม สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้
 เรามากันในวันหยุดรัฐธรรมนูญ วันนี้อากาศดีมากเลยโดยเราเลือกมากันในช่วงเช้า เวลาก็ประมาณ 11.00 น.มาถึงตอนนี้ คนก็ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้างแล้ว สิ่งแรกที่เรามุ่งหน้าไป ก็คงไม่พ้น ร้านอาหาร ซึ่งอาหารที่นี่    


 มาถึงโตนกลอยทั้งทีต้องมีกินสักหน่อยแล้ว เหมือนอย่าที่ว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง และสำหรับเมนูอาหารวันนี้เราขอนำเสนอ กล้วยทอด มันทอด ลูกชิ้นหลากรส อันนี้แค่เรียกน้ำย่อย เมนูเด็ดมันอยู่ที่ ส้มตำไก่ย่าง ลาบ ยำ แต่วันนี้เราเลือกสั่งส้มตำไข่เค็มและส้มตำไทย พร้อมไก่ย่างและข้าวเหนียวและกล้วยทอด กับลูกชิ้นปิดท้ายในอาหารมื้อนี้ ซึ่งเราใช้งบประมาณแค่ 200บาท เท่านั้นเอง  



 สำหรับสิ่งที่ได้จากการร่วมทริปในครั้งนี้ คือ
*****อิ่มแปร๊รรรรสบายกระเป๋า กับราคาอาหารที่แสนเบาเบา
******แม้นเราจะลำบากสักแค่ไหน แต่หากเรามีความพยายามและอดทนกับ    อุปสรรคที่พบเจอ ท้ายที่สุดแล้วเราก็พบกับความสำเร็จ
******หนทางแม้นยาวไกลสักแค่ไหนแต่ก็ไม่ไกลเกินความสามารถ
*****เพื่อนที่จริงใจ จะช่วยเหลือเพื่อนเมื่อเพื่อนพบความลำบาก หรือได้รับความทุกข์
*****ธรรมชาติคือสิ่งที่สวยงาม หากเรารู้จักรักษาและไม่ทำลายมัน มันก็จะอยู่ไปกับเราจนชั่วลูกชั่วหลาน
*******คนกับธรรมชาติเปรียบเสมือนน้ำพึงเรือเสือพึ่งป่า ย่อมมีการพึ่งพาซึ่งกันและกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น